10-วิธีแก้ปัญหาห้องนอนร้อน-ทำยังไงให้ห้องเย็น

รวมวิธีแก้ปัญหาห้องนอนร้อน ทำยังไงให้ห้องเย็น นอนสบายและช่วยประหยัดไฟ

สาเหตุของห้องนอนร้อนเกิดได้จากหลายเหตุผล ทั้งทิศทางของห้องนอน วัสดุตกแต่งหรือก่อสร้างที่ไม่ได้มีคุณสมบัติในการช่วยลดหรือระบายความร้อน ดังนั้น การแก้ปัญหาห้องนอนร้อน ทำได้หลายวิธี เช่น ติดระแนงไม้กันแสง ติดฟิล์มกันร้อน เลือกเครื่องนอนที่มีคุณสมบัติเพิ่มความเย็น ปลูกต้นไม้ระบายอากาศ ด้วยความที่ห้องร้อนเกิดได้จากหลายปัจจัย จึงต้องหาสาเหตุเพื่อแก้ไขไปทีละจุด หรืออาจจำเป็นต้องแก้ไขด้วยหลายวิธีเพื่อให้ห้องเย็นไปได้อีกนาน วันนี้ Morning Sleep จึงรวบรวมวิธีแก้ห้องนอนร้อนมาฝากทุกคนกัน

ห้องนอนร้อนจากทิศทางของห้องนอนที่อยู่ทางทิศตะวันตก

ช่วงที่แสงแดดร้อนที่สุดคือช่วงรับแสงแดดตอนบ่าย ดังนั้น หากห้องนอนอยู่ทางทิศตะวันตกก็จะรับแสงแดดช่วงบ่ายมากเป็นพิเศษ วิธีแก้ความร้อนสำหรับห้องนอนที่รับแสงช่วงบ่ายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คือการเพิ่มตัวช่วยในการบังแสงหรือระบายความร้อน โดยเริ่มจากบริเวณหน้าต่างที่รับแสง โดยการติดฟิล์มกันความร้อน หรือกระจกสะท้อนแสง หากมีพื้นที่เพียงพอการติดระแนงไม้เป็นฟาซาดเพื่อบังแสงแต่มีช่องลมผ่าน ก็เป็นอีกตัวช่วยที่ดีในการลดความร้อนที่จะเข้ามาสู่ห้องนอนได้เช่นเดียวกัน

ติดฉนวนกันความร้อนป้องกันความร้อนนอกจากฉนวนกันความร้อนแล้ว

การระบายอากาศในช่องใต้หลังคาก็สำคัญ ลองเช็คดูว่ามีการเจาะช่องไว้หรือเปล่า ถ้าไม่มี เราอาจทำช่องระบายที่ใต้ฝ้าชายคา หรือติดพัดลมระบายอากาศบนหลังคา เพื่อช่วยระบายความร้อนได้ทางหนึ่งครับ

เปลี่ยนเครื่องนอน หรือที่นอนที่มีคุณสมบัติเย็นและระบายอากาศ

ห้องนอนเป็นพื้นที่สำหรับการพักผ่อนและเราใช้เวลาส่วนใหญ่ในการอยู่ในห้องนอนก็เพื่อการนอนหลับ การเลือกที่นอนที่มีคุณสมบัติเรื่องความเย็นและการระบายอากาศโดยเลือกจากชนิดวัสดุที่นอน เช่น เมมโมรี่โฟมคูลเจล รวมไปถึงการเลือกผ้าปูที่นอนโดยเลือกชนิดผ้าที่มีคุณสมบัติเรื่องความเย็น อย่างเช่น ผ้าฝ้ายผสมลินินสีอ่อน ก็จะช่วยลดความร้อนของร่างกายและทำให้เรานอนหลับได้สบายมากขึ้น

ภาพที่-2ต้องซักผ้าปูที่นอนบ่อยแค่ไหน

ป้องกันบ้านร้อนด้วยการเลือกของแต่งบ้าน

  • ทาสีห้องโทนเย็น เลือกทาสีห้องให้เป็นโทนเย็น ในแง่จิตวิทยาสีจะช่วยทำให้รู้สึกว่าห้องดูเย็นขึ้น หรือเลือกสีทาบ้านที่มีคุณสมบัติเกี่ยวกับการป้องกันความร้อน
  • เลือกใช้หลอด LED เพราะปล่อยพลังงานความร้อนออกมาน้อยกว่าหลอดไฟชนิดอื่น ๆ
  • เลือกใช้หลอด LED เพราะปล่อ
  • เพิ่มช่องทางในการระบายความร้อน เช่น หน้าต่าง ช่องลม
  • ติดตั้งกระจกประตู/หน้าต่างที่ช่วยกันความร้อน เช่น กระจกโฟลต กระจกตัดแสง กระจกลามิเนต กระจกอินซูเลต
  • เลือกใช้ที่นอนที่มีคุณสมบัติช่วยเรื่องความเย็น ที่นอนหลายชนิดในปัจจุบันนี้ มีวัสดุที่ช่วยเรื่องความเย็นได้ดี เช่น ที่นอนเมมโมรี่โฟม

ทำยังไงให้ห้องเย็น-นอนสบายและช่วยประหยัดไฟ3

ปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียว

การปลูกต้นไม้ไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มร่มเงาให้กับบ้านเท่านั้น แต่ต้นไม้บางชนิดยังมีคุณสมบัติช่วยกรองอากาศหรือหรือกรองฝุ่นได้ดี โดยเฉพาะเมื่อปลูกทิศทางที่เป็นลมผ่านอย่างทิศใต้ ก็จะช่วยให้ลมที่ผ่านต้นไม้มีความเย็นสบายมากขึ้น แต่ก็ต้องระมัดระวังต้นไม้ที่ใหญ่เกินไปก็อาจจะกลายเป็นบดบังลมได้เช่นกัน ต้นไม้ที่ช่วยให้บ้านเย็นและกรองฝุ่น ได้แก่ ต้นยาง ต้นไทรน้อย ต้นหูกระจง ต้นจั๋ง ต้นหมากเหลือง มอนสเตอร่า ไทรใบสัก ลิ้นมังกร

เลือกแอร์ที่เป็นระบบอินเวอร์เตอร์

แอร์ระบบอินเวอร์เตอร์ ช่วยประหยัดพลังงาน เนื่องจากระบบการทำงานของคอมเพรสเซอร์ไม่ได้ถูกตัดบ่อยครั้ง แต่เป็นการลดรอบของมอเตอร์เมื่ออุณหภูมิคงที่หรือการไม่ตัดสตาร์ทใหม่ของมอเตอร์แทน กินไฟน้อยเพราะไฟเหล่านั้นจะเลี้ยงการทำงานของคอมเพรสเซอร์เอาไว้โดยที่ไม่จำเป็นต้องดับคอมเพรสเซอร์ ทำให้แอร์ระบบอินเวอร์เตอร์มีความเงียบมากกว่าแอร์ระบบธรรมดาทั่วไป ในขณะที่ระบบทำความเย็นเริ่มทำงานหรืออุณหภูมิคงที่แล้วอินเวอร์เตอร์จะสั่งลดรอบการทำงานของมอเตอร์ลง (หมุนช้าลง) แต่ไม่หยุดการทำงานของมอเตอร์ ซึ่งเป็นการลดกำลังงานที่ใช้ ช่วยให้ประหยัดค่าไฟมากขึ้น

เปิดแอร์ควบคู่กับพัดลม

เปิดแอร์ 27 องศา พร้อมกับเปิดพัดลมตั้งพื้นควบคู่กัน ช่วยเพิ่มการเคลื่อนที่ของอากาศในห้อง ซึ่งวิธีใช้แอร์ดังกล่าวจะช่วยประหยัดค่าไฟลงได้ 10-30% ถึงแม้การเปิดแอร์เพียงอย่างเดียวสามารถทำความเย็นได้อย่างทั่วถึงเช่นเดียวกัน แต่หากพื้นที่ในห้องกว้างเกินไป ก็ส่งผลให้แอร์ทำงานหนักมากขึ้นทำให้เปลืองค่าไฟได้ แต่การเปิดแอร์ควบคู่กับพัดลม จะเป็นการช่วยกระจายความเย็น ช่วยลดอุณหภูมิลงได้ถึงประมาณ 2 องศาเลยทีเดียว โดยการจัดวางพัดลมควรวางในทิศทางที่คุณมักจะนั่ง หรือทำงาน ในขณะที่การวางแอร์ควรอยู่ในที่ที่สูง ซึ่งจะช่วยให้ลมเย็นสามารถไหลลง และกระจายไปทั่วห้องได้มากขึ้น

ทำยังไงให้ห้องเย็น-นอนสบายและช่วยประหยัดไฟ1

แนะนำที่นอนสำหรับคนขี้ร้อน ที่นอนพ็อกเก็ตสปริง Morning M5

ที่นอนสปริง Morning M5 ถูกพัฒนามาให้ตอบโจทย์คนที่ชอบนอนที่นอนฟีลโรงแรม โดยการผสานวัสดุหลายชนิดจนเป็นที่นอนพ็อกเก็ตสปริงที่รวมเอาคุณสมบัติดีๆ ของวัสดุที่นอนหลายชนิดมารวมไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น อัพเกรดเทคโนโลยีผ้าคลุม Tencel 100% ที่ช่วยให้พื้นผิววัสดุที่นอนมีความนุ่มสบาย รับกับเมมโมรี่โฟมผสมคูลเจล ที่เย็นกว่า ช่วยระบายอากาศได้ดีกว่าเมมโมรี่โฟมทั่วไป ที่สำคัญคือที่นอน Morning N5 ได้พัฒนาระบบพ็อกเก็ตสปริง 2 ชั้น มีสปริงมากกว่า 2,900 ลูก ซึ่งเป็นสปริงมากว่าที่นอนทั่วไป 5 เท่า (ที่นอนโรงแรมหรูมีสปริงเพียง 800 ลูก) ช่วยรองรับทุกส่วนของร่างกายอย่างแม่นยำ ลดแรงกระแทกแบบไดนามิก

ที่นอนทำมาจากวัสดุอะไร?

ชั้นที่ 1 : Ultra Cooling TENCEL™ Cover
ผ้าหุ้ม Tencel 100% นำเข้าจากประเทศออสเตรีย ใช้เส้นใยธรรมชาติ สัมผัสเนียนลื่น เย็นสบาย ไม่ระคายผิวภูมิแพ้นอนได้
ชั้นที่ 2 : CoolMax Memory Foam
เมมโมรี่โฟมผสมคูลเจล เทคโนโลยี MDI เย็นกว่า ระบายอากาศได้ดีกว่าเมมโมรี่โฟมทั่วไป
ชั้นที่ 3 : M5 Hyper coils – Microspring
พ็อกเก็ตสปริงแยกลูกขนาดเล็กรองรับแบบละเอียด นุ่มนวลกว่าสปริงทั่วไป
ชั้นที่ 4 : DualCool Comfort Foam
โฟมระบายความร้อน ประสานกัน2 ชั้น บน-ล่าง ช่วยให้อากาศไหลเวียนได้ดีภายในตัวโฟม
ชั้นที่ 5 : 7-Zone UltraFlex Pocket Springs
7 โซน พ็อกเก็ตสปริงผสานคาร์บอน รองรับ 7 โซน ช่วยกระจายแรงกด สร้างความสมดุลของร่างกายอย่างเหมาะสมและเป็นธรรมชาติมากที่สุด
ชั้นที่ 6 : M5 Encasement + Anti Slip at cover
โฟมขอบสปริง ฐานที่นอน M5 เสริมความมั่นคง เพื่อให้ที่นอนใช้งานคงรูปร่างได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น มาพร้อมผ้าหุ้มกันลื่น

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า