5 สัญญาณที่บ่งบอกว่าถึงเวลาเปลี่ยนที่นอนสปริงของคุณ
ในชีวิตประจำวันของมนุษย์เรา มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เราจำเป็นจะต้องใช้อยู่ทุกวัน เช่น โทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ รถยนต์ และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่หนึ่งในสิ่งทีเรามักจะลืมกันไปว่าเป็นสิ่งที่เราจำเป็นจะต้องใช้ทุกวัน ทุกคืน ไม่มีวันหยุดหรือวันพักผ่อน ก็คือที่นอนของเรานั้นเอง ซึ่งโดยปกติแล้ว “ที่นอนสปริง” จะมีอายุประมาณ 10 – 15 ปี ขึ้นอยู่กับการรักษาที่นอนของเรา ดังนั้นเราไปดูกันดีกว่าว่าจะมีสัญญาณอะไรที่บอกได้บ้างว่าถึงเวลาที่เราจะเปลี่ยนที่นอนสปริงของเราแล้วล่ะ!
นอนบนที่นอนแล้วไม่รู้สึกสบาย
จุดประสงค์ในการมีที่นอนสุดท้ายแล้วก็เพื่อมอบความรู้สึกสบายให้แก่ผู้นอน เพื่อที่เราจะได้นอนหลับได้อย่างเต็มที่ ตื่นเช้าขึ้นมาด้วยความรู้สึกแจ่มใส่ แต่เมื่อใดก็ตามที่เรานอนบนที่นอนของเรา แล้วเริ่มรู้สึกไม่สบายเนื้อไม่สบายตัว แม้เมื่อก่อนจะนอนแล้วรู้สึกสบาย และไม่ได้เกิดมาจากตัวเราที่อาจจะเป็นโรคภัยไข้เจ็บ หากเกิดปัญหานี้ขึ้น ก็ถึงเวลาที่เราต้องสำรวจแล้วล่ะว่าทำไมที่นอนของเราถึงสร้างความไม่สบายให้กับตัวเรา
ที่นอนมีการฉีกขาด
วัสดุที่ใช้ทำที่นอนสปริงแม้จะแตกต่างไปตามรุ่น ยี่ห้อ และราคา แต่โดยปกติแล้วที่นอนสปริงก็มักจะมีความทนทานประมาณหนึ่ง ทว่าเมื่อใช้งานไปหลาย ๆ ปี ก็มีโอกาสซึ่งที่นอนของเราจะมีอาการฉีกขาดตามจุดต่าง ๆ ได้ โดยเฉพาะเพื่อน ๆ ที่ยอมให้สัตว์เลี้่ยงเช่น สุนัข หรือแมวขึ้นไปเล่นหรือนอนบนเตียงของเพื่อน ๆ เล็บมือและเล็บเท้าของเจ้าสัตว์เลี้ยงแสนน่ารักเหล่านี้ สามารถฉีกและทำลายที่นอนได้ ยิ่งเจ้าเพื่อนรักของเราบางตัวที่ซน ๆ ก็อาจใช้ที่นอนของเราเป็นจุดฝึกซ้อม จุดลับเล็บได้ ก็ยิ่งมีโอกาสที่จะมีโอกาสฉีกขาดมากขึ้น ดังนั้นเราแนะนำให้เลือกที่นอนที่มีความทนทานสูงเอาไว้ก่อน เช่น ที่นอน Morning Sleep ซึ่งใช้วัสดุ Base Foam หนาถึง 2 เซนติเมตร ทำให้ที่นอนมีความทนทาน และยืดอายุไปได้อีกหลายปีเลยล่ะ
เราเริ่มมีอาการแพ้ฝุ่น
เมื่อก่อนไม่เคยเป็นภูมิแพ้ หรือมีอาการแพ้ฝุ่น แต่ช่วงหลัง ๆ มาตื่นเช้ามาก็จามแล้วจามอีก รู้สึกว่ามีฝุ่นรอบตัวเราเวลาตื่นนอนตลอดเวลา ปัญหานี้อาจเกิดมาจากที่นอนซึ่งมีอายุมากของเพื่อน ๆ ค่ะ เนื่องจากที่นอนของเรา อาจดูดและซึมซับฝุ่นเข้าไปจำนวนมากหลายต่อหลายปีที่ผ่านมา จนเป็นเหมือนตัวเก็บฝุ่นในบ้านเรา หากเพื่อน ๆ ไม่มีการดูดฝุ่นหรือเก็บรักษาที่นอนที่ดี ก็จะทำให้ฝุ่นเข้าไปอยู่ในที่นอนจำนวนมาก ส่งผลให้ตัวเราเกิดอาการแพ้ฝุ่นทุกครั้งที่ลงตัวไปนอน ปัญหานี้ถือว่าสำคัญมาก เพราะส่งผลต่อสุขภาพของเราโดยตรง แนะนำว่าควรรีบเปลี่ยนที่นอนจะดีที่สุดค่ะ
สปริงในที่นอนเริ่มส่งเสียง
แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นที่นอนสปริง แต่โดยปกติแล้วเวลาเรานอนลงไปก็จะไม่มีเสียงสปริงให้ได้ยินซักเท่าไรนัก เนื่องจากสปริงที่ยังคงตั้งอยู่ดี จะรับน้ำหนักเราได้อย่างมั่นคง ไม่มีอาการติดขัดที่ก่อให้เกิดเสียง ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่เราเริ่มได้ยินเสียงสปริงใต้ที่นอนส่งเสียงทุกครั้งที่เราล้มตัวนอน ก็ต้องคำนึงแล้วล่ะค่ะว่าเจ้าสปริงในส่วนนั้นอาจเสียหรือใกล้เสียแล้ว เราอาจต้องพยายามไม่ถ่ายเทน้ำหนักไปที่จุดที่สปริงส่งเสียว่ามีปัญหาดังกล่าว แต่สุดท้ายแล้วก็คงจะต้องเปลี่ยนอยู่ดีเนอะ
ที่นอนมีการยุบง่าย
เคยเจอไหม ที่นอนของเราเมื่อก่อนล้มตัวนอนแล้วฟินแสนฟิน แต่ตอนนี้ล้มตัวนอนปุ๊ปยุบทันที ถ้าหากเพื่อน ๆ คนไหนเจอปัญหานี้ ถึงเวลาเปลี่ยนที่นอนสปริงแล้วล่ะค่ะ สาเหตุซึ่งที่นอนมีการยุบ มักจะเป็นมาจากตัวสปริงใต้ที่นอนนั้นล้ม ส่งผลให้ไม่มีตัวสปริงมารองรับน้ำหนักเราอีกต่อไป พอเราเทน้ำหนักตัวเราลงไปจุด ๆ นั้นบนที่นอนก็ยุบลงไปเลย จุดนี้ต้องพูดตามตรงว่าที่นอนพ็อกเก็ตสปริงมักจะได้เปรียบมากกว่าที่นอนสปริงทั่วไป เพราะที่นอนสปริงนั้นตัวสปริงจะเรียงตัวแบบยึดติดกัน เมื่อตัวสปริงล้มหรือเสีย โอกาสที่ตัวสปริงข้าง ๆ จะมีปัญหาไปด้วยก็มีสูงขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าคนที่นอนข้าง ๆ เราก็จะรู้สึกไปด้วย แตกต่างจากที่นอนพ็อกเก็ตสปริงที่มีสปริงแยกออกจากกัน ดังนั้นหากมีสปริงจุดไหนที่เสีย โอกาสที่จะพาสปริงข้าง ๆ ล้มไปด้วยก็จะมีต่ำลงนั้นเอง
สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เพจ : Morning Sleep